คำอธิบายเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของระบบ KLIX
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) นี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งาน ระบบ KLIX (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “กิจกรรมการประมวลผล”) ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “สถาบัน” หรือ “เรา”) ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่านเพื่อการดำเนินการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ สถาบันได้จัดทำระบบระบบ KLIX ซึ่งเป็นระบบการเรียนการสอนออนไลน์สำหรับบุคคลทั่วไป (KMITL Learning Intelligence X : KLIX) ภายใต้ชื่อเว็บไซต์ klix.kmitl.ac.th โดยเป็นระบบที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับคนทุกกลุ่มวัยเพื่อได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง โดยระบบมีขั้นตอนการทำงานที่ ผู้ใช้จะต้องลงทะเบียนสมัครใช้บริการเพื่อที่จะสามารถทำการลงทะเบียนในรายวิชาต่าง ๆ , ชำระค่าลงทะเบียนเรียน นอกจากนี้ ระบบ KLIK ยังได้รวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้งานระบบ เช่น ข้อมูลรายวิชาที่เรียน , ข้อมูลการเข้าเรียน , ข้อมูลคะแนนสอบ , ข้อมูลการได้รับใบประกาศนียบัตร , ข้อมูลการตอบคำถาม และข้อมูลการสนทนาในห้องเรียน เป็นต้น
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียนการสอนออนไลน์ผ่านช่องทางเดียวด้วยบัญชีเข้าใช้งานเดียวรองรับการขอรับบริการต่าง ๆ ของสถาบัน พร้อมติดตามสถานะการใช้บริการได้อย่างสะดวก เช่น การแสดงข้อมูลบุคคล การตรวจสอบสิทธิเพื่อความสะดวกแก่ผู้เรียน
ทั้งนี้ เราดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐาน ดังต่อไปนี้
(1.1) ฐานความยินยอม (Consent)
กรณีมีความจำเป็น เมื่อท่านให้ความยินยอมกับสถาบัน สถาบันอาจนำข้อมูลส่วนบุคคคลของท่านไปเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย เพื่อการพัฒนาเกี่ยวกับการศึกษา หรือเพื่อการบริหารจัดการภายใต้การดำเนินงานของสถาบัน
(1.2) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
กรณีมีความจำเป็น สถาบันอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสถาบัน
(1.3) ฐานภารกิจของรัฐ (Public Task)
กรณีมีความจำเป็น สถาบันอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบหมายให้แก่สถาบัน
(1.4) ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation)
กรณีมีความจำเป็น สถาบันอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
(2.1) เพื่อประกอบการรับสมัครและพิจารณาคัดเลือกผู้เข้าอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ ที่จัดขึ้น โดยสถาบันหรือเครือข่ายของสถาบัน ซึ่งผู้สมัครดำเนินการสมัครสมาชิก และ/หรือลงทะเบียนเรียนตามช่องทางที่จัดไว้
(2.2) เพื่อจัดทำประกาศรายชื่อหรือเอกสารแนะนำผู้เรียนในหลักสูตรต่าง ๆ ที่จัดโดยสถาบันและเครือข่ายสถาบัน และเผยแพร่ให้แก่ผู้เรียนของหลักสูตร
(2.3) เพื่อจัดทำรายชื่อและประวัติย่อของวิทยากรประจำหลักสูตร และเผยแพร่ให้แก่ผู้เรียน
(2.4) เพื่อประมวลผลและจัดทำรายงานผลการเรียนในหลักสูตรต่าง ๆ ที่จัดโดยสถาบันหรือเครือข่ายสถาบัน
(2.5) เพื่อจัดทำและเผยแพร่วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ย้อนหลัง
(2.6) เพื่อเบิกจ่ายค่าลงทะเบียนฝึกอบรม และเบิกจ่ายค่าตอบแทนวิทยากร
(2.7) เพื่อการติดต่อประสานงานและแจ้งข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้เรียน
(2.8) เพื่อจัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์หลักสูตรของสถาบัน ซึ่งมีผู้เรียนหรือวิทยากรปรากฎเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อ
(2.9) เพื่อการบริหารจัดการฝึกอบรมหรือกิจกรรมภายในอื่น ๆ ของสถาบัน
(2.10) เพื่อรักษาความปลอดภัยของอาคารสถานที่ หรือสถานที่ฝึกอบรม
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้
เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2. เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังรายการต่อไปนี้
(3.1) แหล่งข้อมูลและรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม มีดังนี้
(3.2) วัตถุประสงค์การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(4.1) เปิดเผยข้อมูลของท่านต่อสาธารณะให้แก่บุคคลทั่วไปเพื่อการประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผ่านเว็บไซต์ https://oaq.kmitl.ac.th , https://ktbfastpay.ktb.co.th/KTB/eng/payment/payForm.jsp สื่อ Social Media Facebook ชื่อ KMITL , KLIX และ KMITL Online Teaching and Learning Service
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
สถาบันจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาดังต่อไปนี้
(5.1) ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ
(5.2) ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ สถาบันจะกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บตามความจำเป็นที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของสถาบัน
เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาดังกล่าว สถาบันจะดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
(6.1) สิทธิในการได้รับแจ้ง สถาบันจะมีการแจ้ง “ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)” ที่มีรายละเอียดวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยที่ชัดเจน
(6.2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองโดยสามารถแจ้งให้สถาบันทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สถาบันเก็บรวบรวมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน
(6.3) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิในการขอให้สถาบันแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
(6.4) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ระบบข้อมูลของสถาบันรองรับการอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ท่านมีสิทธิขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงขอให้มีการโอนถ่ายข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่นโดยอัตโนมัติได้ และขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการส่งหรือโอนดังกล่าวได้
(6.5) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับสถาบันได้ตลอดระยะเวลา อย่างไรก็ดี การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
(6.6) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่สถาบันมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น สถาบันสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของสถาบัน)
(6.7) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ในระหว่างรอการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้ร้องขอให้แก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้อง หรือขอให้ระงับการใช้แทนการลบข้อมูลส่วนบุคคล หรือในระหว่างการพิสูจน์ของสถาบัน เพื่อปฏิเสธการใช้สิทธิคัดค้านของท่าน
(6.8) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้สถาบันลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากพบว่าไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือในกรณีที่ท่านถอนความยินยอมแล้วและสถาบันไม่มีอำนาจที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป หรือในกรณีที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและสถาบันไม่สามารถอ้างเหตุปฏิเสธการคัดค้านได้ หรือในกรณีที่การประมวลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในกรณีที่ท่านประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น หรือถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้เคยให้ไว้กับสถาบัน ท่านสามารถติดต่อขอรับแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่สถาบัน หรือดาวน์โหลดเอกสารดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ของสถาบัน
อย่างไรก็ดี สถาบันอาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นของท่านได้ หากมีเหตุอันชอบธรรมด้วยกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินการใด ๆ เพื่อวัตถุประสงค์หรือเป็นกรณีที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือเป็นกรณีที่อาจส่งผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิหรือเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่น ทั้งนี้ ในกรณีที่สถาบันปฏิเสธการใช้สิทธิ สถาบันจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบ
7. การรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
สถาบันได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจ หรือโดยขัดต่อกฎหมาย
ในกรณีที่สถาบันให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแทนสถาบัน สถาบันจะต้องกำหนดให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการอื่นใด โดยไม่มีอำนาจ หรือโดยขัดต่อกฎหมาย
8. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สถาบันอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยส่งคำร้องขอไปยังหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายระบบบริหารจัดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทาง E-Mail : DPO@kmitl.ac.th และทางไปรษณีย์ โดยส่งมาที่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เลขที่ 1 ถนนฉลองกรุง แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย มีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล สถาบันจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ สถาบันอาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ตามกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้
9. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
สถาบันได้กำหนดให้บุคลากร หรือหน่วยงานของสถาบัน เฉพาะที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยสถาบันจะดำเนินการให้บุคลากร หรือหน่วยงานของสถาบัน ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
10. การปรับปรุงหรือแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
สถาบันอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง สถาบันจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใด ๆ ผ่านช่องทางเว็บไซต์สถาบัน อย่างไรก็ตาม สถาบันแนะนำให้ท่านตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่สถาบัน
ในการเข้าใช้บริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
11. การติดต่อสอบถาม
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่
(1) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
ชื่อ: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 1 ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพ 10520
ช่องทางการติดต่อ: 0 2329 8000 – 0 2329 8099
(2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
ชื่อ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัครเดช วัชระภูพงษ์
ช่องทางการติดต่อ: E-Mail : DPO@kmitl.ac.th
จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2565